6. ผู้จำหน่ายซอฟแวร์ ERP สำเร็จรูปที่สำคัญในโลก และในประเทศ

                 

     ผู้จำหน่าย Software ERP สำเร็จรูปที่สำคัญในโลก และในประเทศ

อันดับที่ 1   SAP 

16

เป็น ERP ขนาด ใหญ่ที่รู้จักกันทั่วโลก โด่งดังมากถึงขั้นเข้าไปสอนกันในมหาวิทยาลัย ใครๆก็อยากใช้ แต่ใช้งานยากภาษา ยังไม่ค่อย เปิดเท่าที่ควร

อันดับที่ 2  Oracle

17

เป็น ERP ขนาดใหญ่ที่รู้จักกันทั่วโลก และราคา ค่า license ก็แพงที่สุดในโลกด้วย และค่า Implement ก็แพงมากๆ บางคนยังสับสนเรื่อง Oracle Application ERP กับ Oracle Database แยกกันให้ออกจะได้ไม่เถียงกัน

อันดับที่ 3  Lawson M3 หรือ ชื่อเดิม Movex

18

เป็น ERP ขนาดใหญ่ที่รู้จักกันทั่วโลก โดยเฉพาะ ทางยุโรป โดดเด่นทางด้านการผลิตแบบซับซ้อน และ Technology Tool โดยมากจะรู้จักกันในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องนุ่งห่ม และโรงงานเหล็ก เป็นต้น

อันดับที่ 4  Baan Info 

19

ตอนนี้ บ้านเราอาจจะเหงา เป็น Product ที่ดี แต่หาคน Implement ยาก เข้าบ้านเรานานมากแต่การตลาดไม่ได้รับความนิยมเลย ไม่ค่อยคุ้นหูเด็กใหม่ๆ

อันดับที่ 5  QAD 

20

เก่าแต่เก๋า เสียดายคงทน Version เดิมนานไปหน่อย ปล่อยให้ ERP ตัวเล็กๆ กระโดดข้ามหัวไปหมดแล้ว แต่ยังไม่ทิ้งความเก่ง อาจจะล้าหลังเรื่อง Database นิดหน่อย

อันดับที่ 6  IFS 

21

มีความเก๋า แต่การทำตลาดยังกล้าๆกลัวๆ ยังเดินตาม รุ่น Movex อยู่

อันดับที่ 7  Ax 

22

ของ ยักษ์ใหญ่ Microsoft ใช่ง่าย หน้าตาสวยงามตามแบบ เจ้าของ ถึงแม้จะเป็นของ Microsoft แต่ Technology ยังห่าง จากรุ่นพี่ๆอันดับ 1-4 อยู่มาก ยังต้องอีกหลาย Version กว่าจะทัน

       ผู้จำหน่าย Software ERP ที่สำคัญในประเทศไทย

อันดับที่ 1 ได้แก่  Microsoft Corporation ไมโครซอฟท์ (อังกฤษ: Microsoft แนสแด็ก: MSFT)

เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลก] มีฐานการผลิตอยู่ที่เมืองเรดมอนด์ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา โดยผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ที่มีกำลังการตลาดมากที่สุดคือ ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ วินโดวส์ และ ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ จุดเริ่มต้นของบริษัทคือการพัฒนาและออกจำหน่ายตัวแปลภาษาเบสิก สำหรับเครื่องแอทแอร์ 8800 หลังจากนี้น ไมโครซอฟท์เริ่มมีอิทธิพลต่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์ภายในบ้าน โดยการออกระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ดอสเมื่อช่วงกลางยุค 1980 ในสายการผลิตของไมโครซอฟท์ วินโดวส์ โดยได้รับความนิยมจากผู้ใช้คอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี นักวิจารณ์ผู้หนึ่งกล่าวถึงเป้าหมายแรกของไมโครซอฟท์ว่า

อันดับที่ 2 ได้แก่  IBM ไอบีเอ็ม (อังกฤษ: International Business Machines, IBM) หรือชื่อเล่น บิ๊กบลู (ยักษ์สีฟ้า)

เป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และให้บริการด้านคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ รายใหญ่ของโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา มีพนักงานมากกว่า 330,000 คนทั่วโลก ไอบีเอ็มก่อตั้งมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 และเป็นบริษัทสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสาขามากกว่า 170 ประเทศทั่วโลก ไอบีเอ็มเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีเมนเฟรมและนาโนเทคโนโลยี

อันดับที่ 3 ได้แก่  Google Inc กูเกิล (Google Inc.) (แนสแด็ก: GOOG และ LSE: GGEA)

เป็นบริษัทมหาชนอเมริกัน มีรายได้หลักจากการโฆษณาออนไลน์ที่ปรากฏในเสิร์ชเอนจินของกูเกิล อีเมล แผนที่ออนไลน์ ซอฟต์แวร์จัดการด้านสำนักงาน เครือข่ายออนไลน์ และวิดีโอออนไลน์ รวมถึงการขายอุปกรณ์ช่วยในการค้นหา กูเกิลสำนักงานใหญ่ที่รู้จักในชื่อกูเกิลเพล็กซ์ตั้งอยู่ที่เมืองเมาน์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีพนักงาน 16,805 คน (31 ธันวาคม 2550) [ต้องการอ้างอิง] โดยกูเกิลเป็นบริษัทอเมริกันที่ใหญ่ที่สุดที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีดาวโจนส์ (ข้อมูล 31 ตุลาคม พ.ศ. 2550) กูเกิลก่อตั้งโดย แลร์รี เพจ และ เซอร์เกย์ บริน ขณะที่ทั้งคู่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งภายหลังทั้งคู่ได้ก่อตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2541 ในโรงจอดรถของเพื่อนที่ เมืองเมนโลพาร์ก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย [1] และมีการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก เมื่อ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2547 เพิ่มมูลค่าของบริษัท 1.67 พันล้านเหรียญสหรัฐ และหลังจากนั้นทางกูเกิลได้มีการขยายตัวตลอดเวลาจากการพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่และการซื้อกิจการอื่นรวมเข้ามา กูเกิลได้ถูกจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่น่าทำงานมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาโดยนิตยสารฟอร์จูน ซึ่งมีคติพจน์ประจำบริษัทคือ Don’t be evil อย่างไรก็ตามทางบริษัทได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในด้านการละเมิดข้อมูลส่วนตัว การละเมิดลิขสิทธิ์ และการเซ็นเซอร์ในหลายส่วน

อันดับที่ 4 ได้แก่  Oracle Corporation ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น (อังกฤษ: Oracle Corporation)

เป็นบริษัทคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูล, เครื่องมือสำหรับพัฒนาฐานข้อมูล, ระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร, ระบบลูกค้าสัมพันธ์, ระบบบริหารห่วงโซ่อุปทาน ออราเคิลก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2520 และมีสำนักงานอยู่ในมากกว่า 145 ประเทศ ในปี พ.ศ. 2548 บริษัทมีพนักงานมากกว่า 50,000 คนทั่วโลก

อันดับที่ 5 ได้แก่  SAP AG

สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง Walldorf ในประเทศเยอรมนี. เอสเอพีหรือ SAP นี้เดิมก่อตั้งในปี ค.ศ. 1972 โดยใช้ชื่อว่า Systemanalyse und Programmentwicklung โดยอดีตวิศวกรไอบีเอ็ม 5 คน ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Systeme, Anwendungen und Produkte in der Datenverarbeitung (ระบบ โปรแกรมประยุกต์ และผลิตภัณฑ์ประมวลผลข้อมูล) และหลังจากการประชุมสามัญประจำปี ค.ศ. 2005 บริษัทได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้ง เหลือแค่ SAP AG แม้ชื่อของบริษัทจะไม่ได้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป แต่เอสเอพีก็เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก โดยมีมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ตามหลัง ไมโครซอฟท์ ไอบีเอ็ม และออราเคิล (เนื่องจากกลูเกิ้ลไม่ได้ทำซอฟแวร์โดยตรง) . เอสเอพีเป็นผู้เสนอระบบซอฟต์แวร์ ERP (อีอาร์พี) ที่ใหญ่ที่สุด ในแง่ของรายได้ หลายครั้งที่เอสเอพีถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางไม่ดี จากการที่บริษัทสนับสนุนสิทธิบัตรซอฟต์แวร์

อันดับที่ 6 ได้แก่  Accenture plc

อันดับที่ 7 ได้แก่  Hewlett Packard บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (อังกฤษ: Hewlett-Packard Company) หรือตัวย่อ เอชพี (HP)

เป็นหนึ่งในบริษัทด้านเทคโนโลยีสารสนเทศขนาดใหญ่ของโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองพาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ทำธุรกิจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ การจัดการภาพดิจิทัล

อันดับที่ 8 ได้แก่  CA Technologies

อันดับที่ 9 ได้แก่  Infosys Technologies Ltd

อันดับที่ 10 ได้แก่  Yahoo Inc.

บริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตสัญชาติอเมริกันซึ่งประกอบไปด้วยเว็บท่า, เสิร์ชเอนจิน, Yahoo! Directory, Yahoo! Mail, Yahoo! News, Yahoo! Photos (ซึ่งในวันที่ 20 กันยายน ปี 2550 ได้โอนไปรวมเข้ากับ Flickr) , Geocities, ฯลฯ ยาฮู! ก่อตั้งขึ้นโดยนักศึกษาปริญญาเอกสองคนจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เจอร์รี่ หยาง (Jerry Yang) และ เดวิด ฟิโล (David Filo) ในเดือนมกราคมปี 1994 และเริ่มดำเนินกิจการในรูปแบบบริษัทครั้งแรกในวันที่ 2 มีนาคม ปี 1995 ปัจจุบัน ยาฮู! มีบริษัทมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซันนีเวล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา อ้างอิงสถิติการเยี่ยมชมเว็บไซต์ (รวมถึงอเล็กซ่า และเน็ตคราฟต์) ยาฮู! ยังคงเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลกอินเทอร์เน็ต ด้วยจำนวนผู้ใช้ 412 ล้านคน เครือข่ายของยาฮู! ทั่วโลกมีเพจวิวโดยเฉลี่ยกว่า 3.4 พันล้านหน้าต่อวัน [ต้องการอ้างอิง] (อัปเดตเมื่อเดือนตุลาคม 2005) ปัจจุบันยาฮู! เปิดให้บริการในประเทศไทยด้วยและเริ่มเปิดตัวในประเทศไทยด้วย หรือ Yahoo! Answers ในภาคภาษาไทย

ที่มา  :  http://www.learners.in.th/blogs/posts/444705

              http://www.toptenthailand.com/display.php?id=2999

ใส่ความเห็น